ระบบไฮดรอลิคและระบบนิวเมติกส์มีความแตกต่างกันอย่างไร

       สำหรับระบบไฮดรอลิค กับ ระบบนิวเมติกส์ นั้นถือว่าเป็นระบบที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนวงการอุตสาหกรรมเกือบแทบจะทุกประเภท เนื่องจากกระบวนการผลิตสินค้าจะเป็นจะต้องมีการเคลื่อนไหวและใช้แรงงานการจับ ขึ้นรูปหรือบีบอัดสินค้าเป็นประจำ ซึ่งแน่นอนว่าการทำงานของทั้งสองระบบนั้นจะใช้เทคโนโลยีของไหลแบบเดียวกันเพื่อสร้างกำลังหรือแรง แต่ตัวกลางที่ใช้แปลงพลังงานกลจะแตกต่างกัน โดยระบบไฮดรอลิคจะใช้ของเหลวที่มีแรงดัน เช่น น้ำมันปิโตรเลียม น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ และน้ำ ส่วนระบบนิวเมติกส์ จะใช้ก๊าซหรืออากาศอัดเป็นตัวกลางในการแปรพลังงาน ดังนั้นถ้าจะอธิบายให้เข้าใจโดยง่าย คือ ระบบนิวเมติกส์ใช้อากาศเป็นตัวกลาง ส่วนระบบไฮดรอลิกใช้ของเหลวเป็นตัวกลาง ซึ่งตัวกลางที่แปลงพลังงานของไหลเป็นพลังงานกลทำให้สองระบบนี้แตกต่างกันนั้นเอง

 

ศูนย์รวมอุปกรณ์ไฮดรอลิค

 

 

ระบบไฮดรอลิคและระบบนิวเมติกส์มีความแตกต่างกัน ดังนี้


1. ระบบไฮดรอลิคเป็นระบบปิด ส่วนระบบนิวเมติกส์เป็นระบบเปิด
2. ระบบไฮดรอลิคจะใช้แรงดันประมาณ 500 ถึง 5000psi ส่วนระบบนิวเมติกส์จะใช้แรงดันประมาณ 100 ถึง100psi
3. ระบบไฮดรอลิคสามารถหล่อลื่นตัวเองได้ เพราะว่าใช้น้ำมันหลายชนิดในการทำขับเคลื่อน ส่วนระบบนิวเมติกส์จะต้องไท่สามารถหล่อลื่นตัวเองได้ ต้องมีการจัดเตรียมแยกไว้ต่างหาก
4. ปั๊ม วาล์ว ข้อต่อ สายไฮดรอลิค อุปกรณ์ไฮดรอลิคที่ใช้ในระบบไฮดรอลิค สำหรับการจัดเก็บและสูบของเหลวทำให้ระบบมีขนาดใหญ่และซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้น ส่วนประกอบที่มีขนาดใหญ่จึงต้องการแรงดันที่มากขึ้น และทำให้ระบบไฮดรอลิคมีราคาสูงขึ้น การบำรุงรักษาและการซ่อมแซมระบบไฮดรอลิคนั้นซับซ้อนกว่าระบบนิวเมติกส์ ระบบนิวเมติกส์นั้นเรียบง่าย ราคาถูก และประหยัดกว่าค่ะ
5. มอเตอร์ระบบไฮดรอลิคสามารถสตาร์ทมอเตอร์ภายใต้แรงดันสูงได้ นอกจากนี้ ระบบไฮดรอลิคสามารถทำงานช้า แม่นยำ และให้การเคลื่อนที่เชิงเส้น สำหรับระบบนิวเมติกส์ การทำงานที่ช้าเกินไปจะทำให้เกิดการกระตุก
6. ถ้าเกิดการรั่วของระบบไฮดรอลิคจะทำให้สภาพแวดล้อมการทำงานเลอะเทอะ นอกจากนี้การรั่วไหลของของเหลวที่มีแรงดันยังเป็นอันตรายต่อทั้งคนงานและเครื่องจักร ฉะนั้นในระบบไฮดรอลิค การรั่วจะทำให้ประสิทธิภาพของระบบช้าลง แต่ระบบนิวเมติกส์จะได้รับผลกระทบจากการรั่วซึม
7. น้ำมันไฮดรอลิกบางชนิดเป็นน้ำมันปิโตรเลียม ฉะนั้นในระบบไฮดรอลิก มีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้ แต่ระบบนิวคเมติกส์ไม่มีอันตรายจากไฟไหม้
8. การทำงานของวาล์วของระบบนิวเมติกส์นั้นง่ายกว่าระบบไฮดรอลิค
9. เครื่องอัดอากาศเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของระบบนิวเมติกส์

 

ผลิตและจำหน่ายสายไฮดรอลิค


       อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้ระบบไฮดรอลิคและระบบนิวเมติกส์เป็นระบบที่มีความสำคัญอย่างมากกับอุตสาหกรรมต่างๆ ดังนั้นหากทุกท่านมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับส่วนประกอบของระบบไฮดรอลิคก็จะทำให้สามารถเข้าใจการทำงานของระบบไฮดรอลิคได้ และใช้งานจากระบบไฮดรอลิคได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่ง บริษัท เค แอนด์ พี ไฮดรอลิค จำกัด ผู้นำด้านอุปกรณ์ไฮดรอลิคอย่างครบวงจร ที่ได้รับการยอมรับมากกว่า 20 ปี ให้บริการจำหน่ายอุปกรณ์ไฮดรอลิค สายไฮดรอลิค  สายอุตสาหกรรม สายท่ออ่อนสแตนเลส สายถักสแตนเลส ข้อต่อลม ข้อต่อสายไฮดรอลิค หัวสายไฮดรอลิค สายใสอุตสาหกรรม ท่ออ่อนสแตนเลส ข้อต่อ สายไฮดรอลิคเทปล่อนสแตนเลส สายเพาเวอร์ กระบอกลม และอุปกรณ์อื่นๆอีกมากมาย พร้อมรับประกันคุณภาพทุกชิ้นงาน ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ไฮดรอลิคโดยเฉพาะ
---------------------------------------------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง
• ระบบไฮดรอลิคสำคัญอย่างไร 
• สายไฮดรอลิค อุปกรณ์ขับเคลื่อนของเหลวในระบบไฮดรอลิค  
• มาทำความรู้จักกับประเภทของข้อต่อสวมเร็ว  

ระบบไฮดรอลิคและระบบนิวเมติกส์มีความแตกต่างกันอย่างไร

       สำหรับระบบไฮดรอลิค กับ ระบบนิวเมติกส์ นั้นถือว่าเป็นระบบที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนวงการอุตสาหกรรมเกือบแทบจะทุกประเภท เนื่องจากกระบวนการผลิตสินค้าจะเป็นจะต้องมีการเคลื่อนไหวและใช้แรงงานการจับ ขึ้นรูปหรือบีบอัดสินค้าเป็นประจำ ซึ่งแน่นอนว่าการทำงานของทั้งสองระบบนั้นจะใช้เทคโนโลยีของไหลแบบเดียวกันเพื่อสร้างกำลังหรือแรง แต่ตัวกลางที่ใช้แปลงพลังงานกลจะแตกต่างกัน โดยระบบไฮดรอลิคจะใช้ของเหลวที่มีแรงดัน เช่น น้ำมันปิโตรเลียม น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ และน้ำ ส่วนระบบนิวเมติกส์ จะใช้ก๊าซหรืออากาศอัดเป็นตัวกลางในการแปรพลังงาน ดังนั้นถ้าจะอธิบายให้เข้าใจโดยง่าย คือ ระบบนิวเมติกส์ใช้อากาศเป็นตัวกลาง ส่วนระบบไฮดรอลิกใช้ของเหลวเป็นตัวกลาง ซึ่งตัวกลางที่แปลงพลังงานของไหลเป็นพลังงานกลทำให้สองระบบนี้แตกต่างกันนั้นเอง

 

ศูนย์รวมอุปกรณ์ไฮดรอลิค

 

 

ระบบไฮดรอลิคและระบบนิวเมติกส์มีความแตกต่างกัน ดังนี้


1. ระบบไฮดรอลิคเป็นระบบปิด ส่วนระบบนิวเมติกส์เป็นระบบเปิด
2. ระบบไฮดรอลิคจะใช้แรงดันประมาณ 500 ถึง 5000psi ส่วนระบบนิวเมติกส์จะใช้แรงดันประมาณ 100 ถึง100psi
3. ระบบไฮดรอลิคสามารถหล่อลื่นตัวเองได้ เพราะว่าใช้น้ำมันหลายชนิดในการทำขับเคลื่อน ส่วนระบบนิวเมติกส์จะต้องไท่สามารถหล่อลื่นตัวเองได้ ต้องมีการจัดเตรียมแยกไว้ต่างหาก
4. ปั๊ม วาล์ว ข้อต่อ สายไฮดรอลิค อุปกรณ์ไฮดรอลิคที่ใช้ในระบบไฮดรอลิค สำหรับการจัดเก็บและสูบของเหลวทำให้ระบบมีขนาดใหญ่และซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้น ส่วนประกอบที่มีขนาดใหญ่จึงต้องการแรงดันที่มากขึ้น และทำให้ระบบไฮดรอลิคมีราคาสูงขึ้น การบำรุงรักษาและการซ่อมแซมระบบไฮดรอลิคนั้นซับซ้อนกว่าระบบนิวเมติกส์ ระบบนิวเมติกส์นั้นเรียบง่าย ราคาถูก และประหยัดกว่าค่ะ
5. มอเตอร์ระบบไฮดรอลิคสามารถสตาร์ทมอเตอร์ภายใต้แรงดันสูงได้ นอกจากนี้ ระบบไฮดรอลิคสามารถทำงานช้า แม่นยำ และให้การเคลื่อนที่เชิงเส้น สำหรับระบบนิวเมติกส์ การทำงานที่ช้าเกินไปจะทำให้เกิดการกระตุก
6. ถ้าเกิดการรั่วของระบบไฮดรอลิคจะทำให้สภาพแวดล้อมการทำงานเลอะเทอะ นอกจากนี้การรั่วไหลของของเหลวที่มีแรงดันยังเป็นอันตรายต่อทั้งคนงานและเครื่องจักร ฉะนั้นในระบบไฮดรอลิค การรั่วจะทำให้ประสิทธิภาพของระบบช้าลง แต่ระบบนิวเมติกส์จะได้รับผลกระทบจากการรั่วซึม
7. น้ำมันไฮดรอลิกบางชนิดเป็นน้ำมันปิโตรเลียม ฉะนั้นในระบบไฮดรอลิก มีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้ แต่ระบบนิวคเมติกส์ไม่มีอันตรายจากไฟไหม้
8. การทำงานของวาล์วของระบบนิวเมติกส์นั้นง่ายกว่าระบบไฮดรอลิค
9. เครื่องอัดอากาศเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของระบบนิวเมติกส์

 

ผลิตและจำหน่ายสายไฮดรอลิค


       อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้ระบบไฮดรอลิคและระบบนิวเมติกส์เป็นระบบที่มีความสำคัญอย่างมากกับอุตสาหกรรมต่างๆ ดังนั้นหากทุกท่านมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับส่วนประกอบของระบบไฮดรอลิคก็จะทำให้สามารถเข้าใจการทำงานของระบบไฮดรอลิคได้ และใช้งานจากระบบไฮดรอลิคได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่ง บริษัท เค แอนด์ พี ไฮดรอลิค จำกัด ผู้นำด้านอุปกรณ์ไฮดรอลิคอย่างครบวงจร ที่ได้รับการยอมรับมากกว่า 20 ปี ให้บริการจำหน่ายอุปกรณ์ไฮดรอลิค สายไฮดรอลิค  สายอุตสาหกรรม สายท่ออ่อนสแตนเลส สายถักสแตนเลส ข้อต่อลม ข้อต่อสายไฮดรอลิค สายใสอุตสาหกรรม หัวสายไฮดรอลิค สายใสอุตสาหกรรม ท่ออ่อนสแตนเลส ข้อต่อ สายเพาเวอร์ กระบอกลม และอุปกรณ์อื่นๆอีกมากมาย พร้อมรับประกันคุณภาพทุกชิ้นงาน ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ไฮดรอลิคโดยเฉพาะ
---------------------------------------------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง
• ระบบไฮดรอลิคสำคัญอย่างไร 
• สายไฮดรอลิค อุปกรณ์ขับเคลื่อนของเหลวในระบบไฮดรอลิค  
• มาทำความรู้จักกับประเภทของข้อต่อสวมเร็ว  

ปั๊มพ่นยา ส่วนประกอบของอุปกรณ์การเกษตรสำหรับฉีดพ่นสารเคมี

        à¸›à¸±à¹Šà¸¡à¸žà¹ˆà¸™à¸¢à¸² à¸„ือ à¸­à¸¸à¸›à¸à¸£à¸“์ที่เป็นส่วนหนึ่งในเครื่องพ่นยา ที่สามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ทั้งงานฉีดพ่นยาฆ่าเเมลง พ่นสารเคมี พ่นฮอร์โมน หรือสามารถนำไปใช้ฉีดล้างทำความสะอาดพื้นตามที่ผู้ใช้งานต้องการ ปั๊มพ่นยานั้น มีตั้งเเต่ 2 สูบ จนถึงประมาน 4 สูบ ซึ่งตัวเลขค่าสูบ มาจากระบบกลไกการขับเคลื่อนด้วยลูกสูบ 2 สูบ 3 สูบ หรือ 4 สูบ เป็นต้น เพื่อสร้างเเรงขับเคลื่อนในการส่งกำลังอัดจากภายในกระบอกสูบ ส่งผ่านต่อไปยังชุดวาล์วควบคุมแรงดันเพื่อเปลี่ยนพลังงานไปใช่ในการส่งแรงดันน้ำ ปั๊มพ่นยา ทั้งนี้ ปั๊มพ่นยา 3 สูบ เป็นปั๊มพ่นยาที่ค่อนข้างนิยมใช้งานอย่างเเพร่หลาย โดยเราจะมาทำความรู้จักปั๊มพ่นยาชนิดนี้กันค่ะ    

 

 

ปั๊มพ่นยา 3 สูบ

 

ปั๊มพ่นยา 3 สูบ


ปั๊มพ่นยา 3 สูบ à¸¡à¸µà¸ªà¹ˆà¸§à¸™à¸›à¸£à¸°à¸à¸­à¸šà¸«à¸¥à¸±à¸à¹† อะไรบ้าง

1. ท่อน้ำดูด
2. สายน้ำเดรนทิ้ง
3. วาล์วไล่อากาศ (ติดกับเกจวัดแรงดัน)
4. วาล์วเปิดแรงดัน (ปั้มพ่นยามักใช้งานได้ 2 หัวพ่น)
5. มู่เลย์อะลูมิเนียม


      à¸›à¸±à¹Šà¸¡à¸žà¹ˆà¸™à¸¢à¸² 3 สูบ à¹€à¸¡à¸·à¹ˆà¸­à¸¡à¸µà¸à¸²à¸£à¹ƒà¸Šà¹‰à¸‡à¸²à¸™ ภายในปั๊มจะมีการดูดสารเคมีขึ้นมาผ่านทางน้ำเข้าที่มีขนาดต่างกัน เช่น à¸‚นาด 6 หุล (หุล คือ ขนาดของทางน้ำเข้า), ขนาด 1 นิ้ว หรือขนาดใหญ่กว่านั้น จากนั้นจะเกิดเป็นเเรงดันด้วยลูกสูบทั้งสาม ผ่านตัววาล์วที่ทำหน้าที่เป็นตัวดักน้ำกันเพื่อไม่ให้สารเคมีไหลย้อนกลับไปลงในถัง 

      จากนีั้น เมื่อมีเเรงดันเกิดขึ้น ขั้นตอนต่อไปคือ จะมีการส่งผ่านไปยังชุดควบคุมแรงดันที่อยู่ทางด้านบน เพื่อนำออกไปใช้งาน เเต่ตอนที่ใช้งานปั๊มก็ต้องมีการใช้อย่างระมัดระวังอย่างต่อเนื่องในขณะที่ฉีดพ่น เพื่อรักษาแรงดันขณะที่สารเคมีไหลออกไป ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า การทำงานเกี่ยวกับเครื่องมือที่ใช้สารเคมีทุกครั้ง ผู้ใช้งานควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ à¹‚ดยควรตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ทุกครั้งก่อนใช้งาน เเละอย่าลืมสวมชุดอุปกรณ์ป้องกันให้เรียบร้อย 

 

ปั้มพ่นยา 2 สูบ

 

ปั้มพ่นยา 2 สูบ

 

 

ปั้มพ่นยา 3 สูบ 1 นิ้ว เขียว

 

ปั้มพ่นยา 3 สูบ 1 นิ้ว เขียว

 

 

ปั้มพ่นยา 4 สูบ

 

ปั้มพ่นยา 4 สูบ


 

       à¸šà¸£à¸´à¸©à¸±à¸— ดาวทองจักรกล จำกัด à¸ˆà¸³à¸«à¸™à¹ˆà¸²à¸¢ à¹€à¸„รื่องพ่นยา-เคมี และอะไหล่ à¸›à¸±à¹Šà¸¡à¸žà¹ˆà¸™à¸¢à¸² 3 สูบ à¸ˆà¸™à¸–ึง 4 สูบ คุณภาพดี ราคาย่อมเยา à¹€à¸£à¸² คือ ผู้นำเข้าและพัฒนาอะไหล่เครื่องจักรกลเกษตร อะไหล่รถเกี่ยว อะไหล่รถไถ อุปกรณ์ต่อพ่วงรถไถ เพื่อให้ชาวเกษตรกรได้ผลผลิตที่เพิ่มพูนและยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเตรียมพื้นที่ อะไหล่เครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ต่างๆ การลงปุ๋ยและเคมี รวมถึงอุปกรณ์และอะไหล่สำหรับเก็บเกี่ยวผลผลิต

 

สนใจติดต่อเพิ่มเติมได้ที่

https://daothongjakkhon.com

http://daothongjukkhon.brandexdirectory.com

http://อะไหล่เครื่องจักรกลเกษตร.com    

 

-------------------------------------------------------

 

บทความที่เกี่ยวข้อง


สาระน่ารู้เกี่ยวกับกระบอกไฮดรอลิครถไถ

ใบผานตัวช่วยในการเตรียมดินปลูกมันสำปะหลัง

เทคนิคการเลือกใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงรถไถให้เหมาะสมกับงาน

เทคนิคง่ายๆ จากผู้ให้บริการแพ็คสินค้ามืออาชีพ ที่เหมาะสำหรับร้านค้าออนไลน์

ในปัจจุบัน มีลูกค้าจำนวนมากที่พึ่งพาการซื้อสินค้าที่จัดจำหน่ายเเบบออนไลน์เนื่องจากมีราคาถูกกว่าซื้อหน้าร้านทั่วไป เเละไม่จำเป็นต้องเสียเวลาออกไปซื้อข้างนอก เช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว ผู้ประกอบการที่ค้าขายออนไลน์หลายรายจึงหันมาใช้บริการแพ็คสินค้าจากโรงงานบางเเห่ง เช่น โรงงานผลิตเครื่องสำอาง ที่ครอบคลุมบริการรับจ้างบรรจุสินค้าลงในผลิตภัณฑ์ตามสั่ง à¸£à¸§à¸¡à¹„ปถึงบริการแบ่งบรรจุผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ยิ่งไปกว่า การเลือกโรงงานที่มีบริการแพ็คสินค้าอย่างมืออาชีพ จะช่วยให้สินค้าของท่านส่งตรงถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย ไม่ให้เสียหายระหว่างทางก่อนจัดส่งสำเร็จ

 

บริการแพ็คสินค้า

 

โรงงานที่บริการเเพ็คสินค้า à¸¡à¸µà¹€à¸—คนิคการบรรจุสินค้าอย่างไรบ้าง


การแพ็คสินค้าเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับเจ้าของธุรกิจร้านค้าออนไลน์ เพราะความคาดหวังของลูกค้า คือ การที่สินค้าอยู่ในสภาพสวยงามและไม่เสียหายระหว่างทาง ซึ่งการเเพ็คสินค้าที่ดีนั้น ก็ยังสามารถรักษาคุณภาพของสินค้าไม่ให้เสียหายจากการเปื้อนฝุ่นละออง ความชื้นหรือแสงแดด อีกทั้งยังทำให้การขนส่งมีความง่ายขึ้น เเละยิ่งหากเป็นสินค้าที่มีลักษณะบอบบางเเตกง่าย สินค้าประเภทของเหลว หรือสินค้าประเภทเครื่องสำอางก็ต้องหาวิธีห่อสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย โดยมีการรวบรวมเทคนิคอย่างง่ายเอาไว้ ดังนี้

 

1. สินค้าที่มีลักษณะเหลว 


มักเป็นสินค้าประเภทครีมบำรุง โลชั่น ออยส์ทาผิว หรือสินค้าที่มีลักษณะเหลวประเภทอื่นๆ ซึ่งสินค้าประเภทนี้หากเเพ็คไม่ดี ก็มีสิทธิ์สูงที่จะเสียหายระหว่างทาง ซึ่งอาจมีสาเหตุจากร้านค้าแพ็คสินค้าไม่แน่นหนา ไม่ห่อพลาสติกกันกระเเทก ประกอบกับพนักงานขนส่งที่ไม่ระมัดระวังระหว่างขนส่งพัสดุ หรือกล่องสินค้าที่ถูกโยนหรือวางทับซ้อนกันหลายๆ ชั้นจนได้รับความเสียหาย จึงต้องมีวิธีเเพ็คสินค้าในเเน่นหนา ดังนี้

 


  1. ปิดผนึกฝาบรรจุภัณฑ์ด้วยสก๊อตเทป

  2. ห่อสินค้าด้วยซองพลาสติกกันของเหลวภายในบรรจุภัณฑ์หกเลอะเทอะ

  3. ห่อสินค้าด้วยพลาสติกกันกระแทกให้เเน่นหนา

  4. ใช้กล่องพัสดุสำหรับห่อสินค้าเท่านั้น เเล้วเเทรกพื้นที่ภายในกล่องด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ให้เเน่น

  5. ปิดผนึกกล่องพัสดุให้แน่นหนาพร้อมแปะป้ายเตือนระบุว่าเป็นสินค้าแตกง่าย ห้ามวางของทับเด็ดขาด

  6.  

 

 

2. สินค้าประเภทเครื่องสำอาง


เป็นสินค้ายอดนิยมที่ลูกค้ามักสั่งเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีการเเพ็คสินค้าประเภทนี้ทุกวัน เเต่เครื่องสำอางเป็นสินค้าที่บอบบาง à¹€à¸ªà¸µà¹ˆà¸¢à¸‡à¹€à¹€à¸•à¸à¸«à¸±à¸à¹„ด้ง่าย เช่น à¸­à¸²à¸¢à¹à¸Šà¹‚ดว์ บลัชออน ตลับแป้ง เเปรงเเต่งหน้า กระจก หากถูกกระทบกระเทือนอย่างแรงระหว่างขนส่ง เเต่ถ้าหากมีการใช้บริการเเพ็คสินค้า ผู้ประกอบก็สามารถมั่นใจได้เลยว่า สินค้าของท่านจะไปถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัยเเน่นอน โดยมีเทคนิคในการเเพ็ค ดังนี้

 


  1. ปิดผนึกฝาบรรจุภัณฑ์ด้วยสก๊อตเทป

  2. นำสินค้าใส่ในซองพลาสติกที่มีความหนา เพื่อป้องกันความเสียหายระหว่างขนส่ง

  3. หุ้มสินค้าด้วยพลาสติกกันกระแทกให้เเน่นหนา

  4. ควรใช้กล่องพัสดุใส่สินค้าเท่านั้น เสริมพื้นที่วางให้แน่นด้วยก้อนกระดาษเพื่อเพื่อลดแรงกระแทกระหว่างขนส่ง

  5. ผนึกกล่องสินค้าให้แน่นหนาพร้อมแปะป้ายเตือนระบุว่าเป็นสินค้าแตกง่าย ห้ามวางของทับเด็ดขาด

  6.  

 

 

บริการบรรจุสินค้าลงบนผลิตภัณฑ์


บริการเเพ็คสินค้า

 

จะเห็นได้ว่าสินค้าประเภทที่ยกตัวอย่างมา ค่อนข้างมีความบอบบางเป็นพิเศษ หากมีการไม่ระมัดระวังในเเพ็ค ก็อาจจะเสียหายก่อนถึงมือลูกค้าได้ เเต่ปัญหานี้จะหมดไปด้วยบริการเเพ็คสินค้าจาก à¸šà¸£à¸´à¸©à¸±à¸— เอ.ดี.เอส.แพ็คเกจจิ้ง แลบ จำกัด à¸œà¸¹à¹‰à¹ƒà¸«à¹‰à¸šà¸£à¸´à¸à¸²à¸£à¸šà¸£à¸£à¸ˆà¸¸à¸ªà¸´à¸™à¸„้าลงบนผลิตภัณฑ์ à¸£à¸±à¸šà¸ˆà¹‰à¸²à¸‡à¹à¸šà¹ˆà¸‡à¸šà¸£à¸£à¸ˆà¸¸à¹€à¸„รื่องมือแพทย์ บริการแพ็คสินค้า รับชริ้งแร็พ รับปิดฝาฟอยล์ รับยิงบาร์โค้ดลงบนผลิตภัณฑ์ รับยิงวันที่ลงบนผลิตภัณฑ์ รับแบ่งบรรจุเครื่องหอม à¸£à¸±à¸šà¸ˆà¹‰à¸²à¸‡à¸œà¸¥à¸´à¸• OEM à¸£à¸±à¸šà¸ªà¸£à¹‰à¸²à¸‡à¹à¸šà¸£à¸™à¸”์เครื่องสำอาง รับแพ็คสินค้า รับแพ็คอาหารเสริม แบ่งบรรจุเครื่องสำอาง รับแพ็คขวดยาหยอดตา ขึ้นรูป pvc แพคเกจจิ้ง

 

 

สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

 

adspackaginglab.pagesthai.com

 

www.adspackaginglab.com


 

-------------------------------------------------------

 

บทความที่เกี่ยวข้อง


- 5 ประเภทสกินแคร์ยอดนิยมที่ต้องรู้ ก่อนเลือกบริษัทรับสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง

มาทำความรู้จักเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ (Package)

ปัจจัยการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

 

เคล็ดลับดูแลรักษาหัวเกียร์ตัดหญ้าเบื้องต้น สำหรับผู้ใช้งานมือใหม่

การใช้เครื่องตัดหญ้านั้นมีประโยชน์มากมายสำหรับผู้ใช้งานหลายท่าน เพราะไม่จำเป็นต้องใช้แรงงานคนเยอะ สามารถตัดหญ้าได้ในบริเวณกว้าง ใช้งานง่ายและสะดวกรวดเร็ว โดยหลังใช้งานเสร็จ ไม่เพียงแค่ต้องดูแลรักษาแค่เครื่องตัดหญ้าเท่านั้น แต่ต้องดูแลหัวเกียร์ตัดหญ้าควบคู่ไปด้วย เพื่อให้เครื่องมือมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ซึ่งเคล็ดลับการดูแลรักษาหัวเกียร์ตัดหญ้า ก็ไม่ได้ยากสำหรับผู้ใช้งานมือใหม่อย่างที่คิด

 

แนวทางดูแลรักษาหัวเกียร์ตัดหญ้าเบื้องต้น


หัวเกียร์ตัดหญ้า คือ อะไหล่ทางการเกษตรชนิดหนึ่ง สำหรับเปลี่ยนหรือติดตั้งสำหรับเครื่องตัดหญ้าสะพายบ่า ซึ่งวัสดุเหล็กที่นำมาผลิตชุดหัวเกียร์ เป็นเหล็กเกรดที่นำมาทำเครื่องจักรผ่านกระบวนการชุบแข็ง เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานให้ยาวนาน อีกทั้งยังช่วยลดการสึกหรอของตัวเฟือง แต่อย่างไรก็ตาม  à¸à¸£à¸°à¸šà¸§à¸™à¸à¸²à¸£à¹€à¸•à¸´à¸¡à¸„วามแข็งก็อาจจะไม่ได้ช่วยป้องกันการสึกหรอได้ทั้งหมด

 

 

หัวเกียร์ตัดหญ้า 30 แรง


 

หัวเกียร์ตัดหญ้า

 

 

หัวเกียร์ตัดหญ้า 40 แรง




ผู้ใช้งานมือใหม่จึงควรดูแลเครื่องตัดหญ้าหากมีการใช้งานไปสักระยะ โดยเฉพาะชุดหัวเกียร์ที่ต้องดูแลพร้อมกันไปด้วยเพื่อประสิทธิภาพของการใช้งาน โดยวิธีที่นิยมที่สุด คือ การใส่สารหล่อลื่นที่เหมาะสมเข้าไป นั่นคือ จาระบีสีเขียว เบอร์ 2 เนื่องด้วยคุณสมบัติจารบีประเภทนี้ที่ละลายความร้อนได้ดี ไม่ค่อยแข็ง ไม่จับเป็นก้อน ทำให้จาระบีสามารถไหลเคลือบเฟืองหัวเกียร์ตัดหญ้าได้ตลอดเวลาของการใช้งาน แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเราใช้เราจาระบีเบอร์อื่นกับหัวเกียร์ตัดหญ้า จาระบีอาจจะมีโอกาสแข็งและจับตัวเป็นก้อน เป็นผลให้เกิดความเสียหายแก่ตัวเฟืองสูง นอกจากนี้ เรายังควรดูแลชุดหัวเกียร์และเครื่องตัดหญ้าด้วยวิธีอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย ดังนี้

 


  1. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องตัดหญ้าตัดวัตถุแข็ง

  2. ตรวจสอบว่ามีสิ่งที่เข้าไปพันบริเวณใบตัดหรือหัวเกียร์ตัดหญ้าหรือไม่

  3. หลีกเลี่ยงการปล่อยให้เครื่องตัดหญ้าตากแดดเป็นเวลานาน

  4. เติมจาระบีสีเขียวเบอร์ เบอร์ 2 ทุกๆ 20 ชั่วโมง เพราะจะช่วยให้เครื่องตัดหญ้าทำงานดีขึ้น

  5. หากอะไหล่เครื่องตัดหญ้ามีอาการเริ่มชำรุด ให้หลีกเลี่ยงการใช้ และควรซ่อมทันที

  6. หากมีการติดตั้งอะไหล่เข้ากับเครื่องตัดหญ้า ควรสวมใส่ให้แน่นทุกครั้ง เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุขณะใช้งาน

  7.  

 

วิธีดูแลหัวเกียร์ตัดหญ้าไม่มีอะไรที่ยุ่งยาก เพียงแค่ตรวจเช็คความพร้อมของอุปกรณ์ก่อนใช้งานและหลังใช้งาน ซึ่งหากอะไหล่ชำรุดก็ควรทำการซ่อมแซม หรือหาอะไหล่ตัวใหม่มาทดแทน บริษัท ดาวทองจักรกล จำกัด ผู้นำเข้าและพัฒนาอะไหล่เครื่องจักรกลเกษตรหลายชนิด ยินดีบริการให้คำปรึกษาและจัดจำหน่ายหัวเกียร์ตัดหญ้า 30, 40, 50 แรง เพื่อสนับสนุนให้มีการใช้เครื่องมือทุ่นแรง ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำเกษตรกรรมไทย รวมไปถึงอุปกรณ์และอะไหล่ชนิดอื่นๆ

 

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม


E-mail : [email protected]

Website : https://daothongjakkhon.com/

http://daothongjukkhon.brandexdirectory.com

http://อะไหล่เครื่องจักรกลเกษตร.com

 

-------------------------------------------------------

 

บทความที่เกี่ยวข้อง


- ตรวจเช็คและบำรุงรักษาอะไหล่รถไถ อะไหล่รถเกี่ยว อย่างไรให้ใช้งานได้นาน

- หัวเกียร์ตัดหญ้า เพลาปั่น PTO ตัวช่วยอุปกรณ์ต่อพ่วงให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

- ดาวทองจักรกล ส่งเสริมทุกงานเกษตรให้มีประสิทธิภาพ

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15